ถึงเวลาที่ต้องจ่ายแล้ว! ทำโฆษณาออนไลน์ต้องจ่ายภาษี (Vat 7%) เริ่มกันยาฯ นี้
ไม่ว่าคุณจะมีวัตถุประสงค์ในการทำโฆษณาในรูปแบบนิติบุคคัล (จดบริษัท) หรือบุคคลธรรมดา 1 กันยายน 2564 นี้เป็นต้นไป การยิงโฆษณาต้องจ่ายภาษี 7% ตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 53) พ.ศ. 2564 หรือที่เราคุ้นหูกันในชื่อ พ.ร.บ. e-Service
เรื่องนี้เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันพอสมควรแต่ท้ายที่สุดก็คงเป็นเรื่องที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ แน่นอนว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็ต้องเป็นเราทุกคนที่มีการทำโฆษณาออนไลน์ซึ่งต้องจายภาษี 7% นับจากเวลาดังกล่าวเป็นต้นไป ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้มีการเก็บภาษีใดๆ มาก่อน นั่นเท่ากับว่าธุรกิจต่างๆ ทั้ง SME ขนาดเล็กไปจนถึงระดับภาคองค์กร อุตสาหกรรม อาจจะต้องมีการวางแผนงบประมาณการทำโฆษณากันใหม่เนื่องจากจะต้องบวกภาระค่าภาษีที่ว่านี้เข้าไปด้วย
จะรู้ได้อย่างไรว่าต้องจ่ายภาษีกี่บาท
ในการชำระค่าโฆษณา Facebook บวก ภาษี 7% นั้นหากเป็นกรณีชำระค่าโฆษณาในรูปแบบตัดยอดเงินจากบัตรเครดิต ทาง Facebook จะไม่ได้มีการหักยอดเงินจากจำนวนเต็มที่คุณต้องจ่าย แต่จะเป็นการบวกภาษี 7% เข้าไป อย่างเช่น หากคุณกำหนดงบยิงโฆษณาไว้ที่ 1,000 บาท ระบบจะตัดเงินจากบัตรเครดิตของคุณไป 1,070 บาท
แต่ถ้าหากคุณใช้วิธีการเติมเงินเข้าระบบ (ฟีเจอร์นี้จะมีเฉพาะบัญชีโฆษณาประเภทส่วนบุคคล) ระบบจะใช้วิธีการตัดเงินจากยอดงบประมาณที่คุณตั้งไว้ ความหมายคือโฆษณาที่ทำไปจะไม่ได้ถูกใช้เต็มจำนวนแบบเมื่อก่อน ตัวอย่างเช่น คุณกำหนดงบยิงโฆษณาไว้ที่ 1,000 บาท โฆษณาที่ถูกส่งออกไปจะใช้งบแค่ 930 บาท แต่ตอนชำระเงินระบบก็ยังจะเรียกเก็บเงินคุณ 1,000 บาทเท่าเดิม เพราะ 70 บาทที่หายไปก็คือภาษี 7% นั่นเอง
ส่วนแพลตฟอร์มอื่นๆ อาจจะมีรูปแบบการเรียกชำระเงินที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งตอนนี้ทุกๆ แพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานในไทยอย่างแพร่หลายก็เริ่มส่งอีเมลแจ้งรายละเอียดเรื่องนี้กันแล้ว
อยากทำโฆษณาออนไลน์แต่ไม่จ่ายภาษีได้ไหม
ไม่ได้และไม่แนะนำอย่างยิ่งเพราะนี่คือกฎหมายที่ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว หากคุณหลีกเลี่ยงแน่นอนว่าคุณกำลังทำผิดกฎหมายและอาจจะโดนค่าปรับรวมถึงภาษีย้อนหลังได้ ซึ่งไม่คุ้มเอามากๆ
ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดในการที่จะช่วยประหยัดค่าโฆษณาออนไลน์ของคุณได้ก็คือการทำให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักและจดจำบนโลกออนไลน์ให้ได้ ซึ่งก็มีหลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการทำคอนเทนต์ที่น่าสนใจ หาคาแรคเตอร์ จุดขายของธุรกิจ รวมถึงใช้ช่องทางการขายต่างๆ อาทิ เว็บไซต์ E-Commerce การทำ SEO หรือการออกโปรโมชั่นที่น่าสนใจ เพื่อเป็นการกระจายการตลาดไปยังหลากหลายช่องทาง ก็น่าจะเป็นทางออกที่คุณสามารถลงมือทำได้ทันที
Join the discussion - 0 Comment