Primal Co., Ltd (“บริษัท”) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ได้อธิบายการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ท่านมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะถูกนำไปใช้ตรงตามความต้องการของท่านและถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด
บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้แก่บริษัทโดยตรง เช่น
การให้บริการของบริษัท ไม่ได้มุ่งเน้นให้บิการแก่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ดังนั้นบริษัทจะไม่รวบรวมข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้ของบุคคลดังกล่าว หากทราบว่า บริษัทได้รวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลดังกล่าวโดยไม่ได้รับการยืนยันความยินยอมจากผู้ปกครอง บริษัทจะดำเนินการลบข้อมูลนั้นออกจากเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท
บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบบุคคลของท่านในรูปแบบเอกสาร และรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังต่อไปนี้
เพื่อให้ท่านได้ใช้สินค้าหรือบริการของบริษัทได้ตรงตามวัตถุประสงค์ของท่าน บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลอื่น
บริษัทจะแบ่งปันข้อมูลของท่านภายในบริษัทตามที่จำเป็นเพื่อปรับปรุงและพัฒนาสินค้าและบริการของบริษัท บริษัทอาจรวบรวมข้อมูลภายในสำหรับสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ภายใต้นโยบายนี้เพื่อประโยชน์กับท่านและผู้อื่นมากขึ้น
บริษัทอาจใช้ผู้ให้บริการเพื่อช่วยในการให้บริการของบริษัท เช่น การชำระเงิน การตลาด และการพัฒนา ผู้ให้บริการไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของท่านได้ตามความจำเป็นเพื่อปฏิบัติงานเหล่านี้และมีหน้าที่ที่จะไม่เปิดเผยหรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ทั้งนี้ ผู้ให้บริการนี้มีนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง
บริษัทจะเปิดเผยข้อมูล รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สำหรับการปรับโครงสร้างองค์กร การปรับโครงสร้างใหม่ การควบรวมหรือการขายกิจการ หรือการถ่ายโอนสินทรัพย์อื่นๆ โดยมีเงื่อนไขว่าฝ่ายที่รับโอนตกลงยอมรับที่จะปฏิบัติกับข้อมูลส่วนตัวของท่านในลักษณะที่สอดคล้องกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
ในกรณีที่จำเป็นตามกฎหมายหรือเมื่อหน่วยงานราชการร้องขอ บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นให้แก่หน่วยงานราชการ เช่น ศาล หรือ หน่วยงานของรัฐ
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่ท่านเป็นลูกค้าหรือมีความสัมพันธ์อยู่กับบริษัทหรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้น หากมีกฎหมายกำหนดไว้ บริษัทจะลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว
บริษัทใช้มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งด้านการบริหารการจัดการ มาตรการด้านเทคนิค และมาตรการป้องกันทางกายภาพที่สมเหตุผลและเป็นรูปธรรม เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวของท่านไม่ให้สูญหาย ถูกขโมย และป้องกันการเข้าถึง การใช้งาน และการแก้ไขที่ไม่ได้รับอนุญาต มาตรการเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อมอบระดับการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมกับความเสี่ยงของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
บริษัทจัดเก็บรายละเอียดการชำระเงินของท่านไว้ในระบบที่มีความมั่นคงปลอดภัย เช่น หมายเลขบัตรเครดิต หรือโทเค็น เพื่อการชำระเงินครั้งถัดไป หรือ สำหรับขั้นตอนการเรียกเก็บเงิน
ท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้ หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทกำหนดขึ้น
สิทธิขอถอนความยินยอม: หากท่านได้ให้ความยินยอม บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดเวลา
สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยว่าบริษัทได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร
สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่บริษัทได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
สิทธิขอคัดค้าน: ท่านมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์
สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากท่านเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่าบริษัทหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้แทน
สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
สิทธิร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ท่านสามารถใช้สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นได้ โดยติดต่อมาที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ตามรายละเอียดท้ายประกาศนี้ บริษัทจะแจ้งผลการดำเนินการภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทได้รับการแจ้งความประสงค์ดังกล่าว หากบริษัทปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบผ่านทาง
เพื่อประโยชน์ในการได้รับสินค้าและบริการของบริษัท บริษัทใช้ข้อมูลของท่านเพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงสินค้าหรือบริการ และทำการตลาดผ่าน Google, Facebook, pixel tracking code และอื่น ๆ บริษัทใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อให้สินค้าหรือบริการเหมาะสมกับท่าน
บริษัทจะส่งข้อความหรือข่าวสาร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอสิ่งที่น่าสนใจสำหรับท่าน หากท่านไม่ต้องการรับการติดต่อสื่อสารจากบริษัทผ่านทางอีเมลอีกต่อไป ท่านสามารถกด “ยกเลิกการติดต่อ” ในลิงก์อีเมล
เพื่อเพิ่มประสบการณ์ของท่านให้สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ บริษัทจะใช้เทคโนโลยีติดตามตัวบุคคล (Cookie) หรือเทคโนโลยีที่ใกล้เคียง เพื่อพัฒนาการเข้าถึงสินค้าหรือบริการ โฆษณาที่เหมาะสม และติดตามการใช้งานของท่าน บริษัทใช้คุกกี้เพื่อระบุและติดตามผู้ใช้งานเว็บไซต์และการเข้าถึงเว็บไซต์
หากท่านไม่ต้องการให้มีคุกกี้ไว้ในคอมพิวเตอร์ของท่าน ท่านสามารถตั้งค่าบราวเซอร์เพื่อปฏิเสธคุกกี้ก่อนที่จะใช้เว็บไซต์ของบริษัท การปฏิเสธนี้จะไม่มีผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท
ในกรณีที่มีเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเกิดขึ้น บริษัทจะแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ชักช้าภายใน 72 ชั่วโมง นับแต่ทราบเหตุเท่าที่สามารถกระทำได้ ในกรณีที่การละเมิดมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของท่าน บริษัทจะแจ้งเหตุการณ์ละเมิดให้ท่านทราบพร้อมกับแนวทางการเยียวยาโดยไม่ชักช้าผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
บริษัทจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้เป็นครั้งคราว โดยท่านสามารถทราบข้อกำหนดและเงื่อนไขนโยบายที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนี้ได้ผ่านทาง
นโยบายนี้แก้ไขล่าสุดและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2020
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ใช้สำหรับการเสนอสินค้า บริการ และการใช้งานเว็บไซต์ของบริษัทเท่านั้น หากท่านเข้าชมเว็บไซต์อื่นแม้จะผ่านช่องทางทางเว็บไซต์บริษัท การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ จะเป็นไปตามนโยบายความคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์นั้น ซึ่งบริษัทไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
หากท่านมีข้อเสนอแนะหรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงการขอใช้สิทธิตามนโยบายฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทและเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ ดังต่อไปนี้
บริษัท ไพรมอล จำกัด
8 อาคารทีวัน ชั้น 21 ห้อง 2-3 ซอยสุขุมวิท 40 พระโขนง คลองเตย กทม. 10110
natcha.klomkaew@thdev.primal.website
www.primal.co.th
020385850
บริษัทไพรมอลจำกัด
8 อาคารทีวัน ชั้น 21 ห้อง 2-3 ซอยสุขุมวิท 40 พระโขนง คลองเตย กทม. 10110
natcha.klomkaew@thdev.primal.website
www.primal.co.th
020385850